ละลุ ที่เที่ยวลับ ที่ถ่ายรูปสวย เที่ยวไทยเหมือนได้ไปเที่ยวเมืองนอก ละลุหนึ่งในความมหัศจรรย์ของจังหวัดสระแก้ว ตั้งอยู่ในอำเภอตาพระยา มีลักษณะคล้ายแพะเมืองผี จังหวัดแพร่ และ”เสาดินนาน้อย”(ฮ่อมจ๊อม) จังหวัดน่าน ละลุเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากน้ำฝนกัดเซาะ ยุบตัวหรือพังทลายของดิน เมื่อถูกลมกัดกร่อนจึงมีลักษณะเป็นรูปต่างๆ คล้ายกำแพงเมืองหน้าผา ที่มีความสวยงาม และ แปลกตาแตกต่างกันตามจินตนาการของแต่ละคน
ละลุ
“ละลุ” เป็นภาษาเขมร แปลว่า “ทะลุ” มีพื้นที่กว้างกว่า 2,000 ไร่ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของละลุเกิดจากน้ำฝนกัดเซาะยุบตัวหรือพังทลายของดิน เนื่องจากสภาพดินแข็งจะคงอยู่ไม่ยุบตัวเมื่อถูกลมกัดกร่อน จึงมีลักษณะเป็นรูปต่าง ๆ มองคล้ายกำแพงเมือง หน้าผาบ้างมีลักษณะเป็นแท่งๆ จึงทำให้ละลุมีความสวยงาม และแปลกตาแตกต่างกันตามจินตนาการของแต่ละคน
ในทุก ๆปีนั้น ละลุจะเปลี่ยนรูปร่างของมันไปเรื่อย ๆ ตามแต่สภาพลมและฝนที่ช่วยกันตกแต่งชั้นดิน และในบางพื้นที่ ก็จะมีละลุที่มีสีน้ำตาลทองตัดกับสีเขียวสดของต้นข้าวกลางพื้นที่ทำนาของชาวบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่สวยงามมาก จนได้รับขนานนามว่าเป็นแกรนด์แคนยอนของเมืองไทยเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวที่สนใจอยากชมปรากฏการณ์ธรรมชาติละลุจะต้องจอดรถไว้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันการยุบตัวและเสียหาย จากการขับรถเข้าไปเอง แต่จะมีการให้บริการรถอีแต๊กของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อเข้าไปชมละลุและจะมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น รวมถึงยุวมัคคุเทศก์มาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของละลุอีกด้วย
กิจกรรมที่น่าสนใจ
มีกิจกรรมที่น่าสนใจคือการ ปั่นจักรยาน นั่งรถอีแต๋นชมละลุและวิถีชุมชน เช่น ทำไร่พริก ทำนา เกษตรตามทฤษฎีเกษตรพอเพียง บ่อปลา – เดินป่งท่องไพรชม 2 อุทยานฯ (อุทยานแห่งชาติปางสีดาและอุทยานแห่งชาติตาพระยา) ช่วงตุลาคม – พฤษภาคม – ชมฝูงไก่ป่านับร้อยที่วัดป่าหนองผักแว่น – ชมการแสดงผักพื้นบ้านของนักเรียนรในชุมชน เช่น การแสดงโปงลาง รำวงพื้นบ้าน บายศรีสู่ขวัญ – ท่องเที่ยวเชิงนิเวศในเขตอุทยานแห่งชาติตาพระยาและอุทยานแห่งชาติปางสีดา เช่น ช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน ชมฝูงนกอ้ายงั่วและนกน้ำ นานาชนิดใน “เทศกาลดูนกน้ำ ตามเส้นทางนกงู” ณ อ่างเก็บน้ำพระปรง อำเภอวัฒนนคร จังหวัดสระแก้ว หรือช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม ของทุกปี ชมความสมบูรณ์ของป่าไม้ในงานเทศกาลดูผีเสื้อที่ปางสีดา อุทยานแห่งชาติปางสีดา อ.เมือง จ.สระแก้ว
นักท่องเที่ยวที่สนใจอยากเข้าชมปรากฏการณ์ธรรมชาติละลุ จะต้องจอดรถไว้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ค่ะ เพื่อป้องกันการยุบตัวและเสียหายของละลุจากการขับรถเข้าไปเอง โดยจะมีการให้บริการรถอีแต๊กของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อเข้าไปชม
ที่มาของละลุ ความสวยงามที่ธรรมชาติสรรสร้าง
ละลุนั้นได้เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ด้วยน้ำฝนที่กัดเซาะ และ การพังทลายของดิน และการยุบตัว ดินที่แข็งจะยังคงอยู่ เมื่อถูกลมกัดกร่อนจะมีลักษณะเป็นรูปต่างๆ ดูคล้ายกับกำแพงสวยงาม รูปลักษณ์แปลกตา น่าอัศจรรย์มากๆ ค่ะ เรียงรายเป็นบริเวณกว้างอยู่กลางทุ่ง เต็มไปด้วยซอกหลืบต่างๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการสะสมของตะกอนดิน ที่ใช้เวลาถึง 150 ล้านปีเลยทีเดียว


ในทุกๆ ปีนั้น ละลุ จะมีการเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ ตามแต่ลมและฝน ที่คอยช่วยกันตกแต่งชั้นดิน มีเป็นหน้าผาบ้าง มีลักษณะเป็นแท่งๆ บ้าง และในบางพื้นที่ก็จะมีละลุที่ขึ้นอยู่กลางพื้นที่ทำนาของชาวบ้านด้วย สีน้ำตาลทองตัดกับสีเขียวของทุ่งนา ก็มีความสวยงามไปอีกแบบ มาเที่ยวเดินถ่ายรูปสวยๆ
เราสามารถเข้าเที่ยวชมละลุได้ทั้งปีเลย แต่จะมีช่วงหน้าฝนที่อาจจะต้องระวังกันมากเป็นพิเศษ ด้วยความลื่นและแฉะของดิน อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินชมความสวยงามของละลุได้ ช่วงเวลาที่น่าไปก็จะเป็นช่วงตอนเช้า และเย็นๆ เพราะแสงจะสวยมากๆ เหมาะกับการเดินเล่นถ่ายรูป
และในทุกปีจะเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ โดยประติมากรรมละลุกระจายกันเป็นจุดๆ แบ่งเป็นโซนที่มีลักษณะสวยงามแตกต่างกัน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงเช้า และ เย็นเพราะช่วงนั้นแดดอ่อนส่องมายังประติมากรรมดินเป็นสีทองดูสวยงามจับใจ ส่วนช่วงเวลากลางคืนยังสามารถนั่งรถอีแต๊กมาดูดาวที่มีให้เห็นเต็มท้องฟ้าเคี่ยงคู่ไปกับประติมากรรมดินได้อีกด้วย ประติมากรรมดินสีแดงที่กระจัดกระจายอยู่รอบพื้นที่ มีรูปร่างแปลกตา ไปตามจินตนาการของแต่ละคน ทั้งแบบใหญ่โตสูงเกินลำตัวของเรา เหมือนหน้าผาขนาดเล็ก บางจุดเป็นก้อนเล็กๆสูงเท่าลำตัวให้ได้แทรกตัวเข้าไปถ่ายรูปได้
โซนนี้สามารถเดินขึ้นไปข้างบนดิน และสามารถชมวิวจากมุมสูงลงไปได้ เห็นเป็นร่องดิน ละลุนับเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ที่ควรค่าแก่การมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง